บริเวณที่พบ : อาคาร สมาคมฯ และอาคารอลงกรณ์ศิลป์
ลักษณะพิเศษของพืช : ไม้ประดับ
ลักษณะทั่วไป : ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสีน้ำตาล ตั้งตรง มีขนนุ่ม
ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุกมีลำต้นตั้งตรง มีความสูงประมาณ 4 - 18 นิ้ว ลำต้นปกคลุมด้วยขนนุ่มทั่วไป
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบมีรูปร่างหลายแบบทั้งเเบบใบรูปกลม รูปไข่ รูปรีหรือรูปหัวใจ กว้าง 7-9 เซนติเมตร ยาว 12-14 เซนติเมตร
ปลายใบมนหรือแหลมเรียวยาวคล้ายหาง โคนใบเว้า ขอบใบหยักหรือจักแบบฟันเลื่อย แผ่นใบมีหลายสีแล้วแต่พันธุ์
เช่น สีเหลืองอ่อนน้ำตาลแดง หรือมีจุดประสีต่างๆ
ดอก : สีขมพู ออกเป็นข่อแบบช่อเชิงลดที่ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งขึ้น ดอกย่อยมีขนาดเล็ก โคนกลีบดอกเชื่อมกันเป็นหลอด
ผล : ผลเป็นผลเดี่ยว เปลือกแข็งผลแห้งจะไม่แตกหรืออ้าออก
ประโยชน์ : ใบมีสรรพคุณใช้คั้นหยอดแก้เจ็บตา แก้เจ็บหู ดอกใช้สมานแผล ห้ามเลือด ้ลำต้นสด แห้ง นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้เจ็บคอ ต่อมทอมซิลอักเสบ รากใช้ราดสดนึ่งกับเนื้อหมูแดงให้เด็กกินแก้โรคตานซางขโมย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับสวนหย่อม